รีเลย์ (Relay)
ข้อมูลทางเทคน ิ คของรีเลย์ (Relay Technical Information)
รีเลย์จะประกอบด้วยส่วนสําคัญ 2 ส่วนคือ ส่วนของขดลวดเหนียวนํา (Coil) และส่วนของหน้าสัมผัส (Contact)
จากรูปข้างบน เมือเราจ่ายไฟ (สามารถเลือกรุ่นได้ทั2ง AC หรือ DC) ให้แก่ขดลวดเหนียวนํา จะเกิดการเหนียวนําทางไฟฟ้าเกิดเป็นแรงสนามแม่เหล็กดึงดูดให้หน้าสัมผัสเคลือนจากตําแหน่ง a (เปิดวงจร) ไปยังตําแหน่ง b (ปิดวงจร) ทําให้วงจร ไฟฟ้าทางด้านเอาท์พุทครบวงจรและทําให้โหลด (Load) ทํางาน
รีเลย์สามารถแบ่ งตามลักษณะการทํางานออกเป็ น 5 กลุ ่ มใหญ่ ๆ คือ
1. รีเลย์ใช้งานทั วไป (General Purpose Relay):
หน้าสัมผัส (Contact) ของรีเลย์ชนิดนี2จะทํางาน (Turn on) ทันทีเมือขดลวดเหนียวนํา (Coil) ถูกป้อนกระแสไฟให้ และจะหยุดทํางาน (Turn off) เมือหยุดป้อนกระแสไฟให้ นั นคือ ถ้าต้องการให้หน้าสัมผัสทํางาน (Turn on) ตลอดเวลา เราจะต้องปอนไฟให้แก่ขดลวดเหนียวนําตลอดเวลาด้วย ตัวอย่างรุ่น เช่น MY, LY, G2A, MK-I/-S
2. เพาว์เวอร์รีเลย์ (Power Relay):
รีเลย์ชนิดนี2จะถูกใช้กับ Load ทีกินกระแสไฟมากๆ (Heavy loads) ตัวอย่างรุ่น เช่น G4B, G7L และ G7J
3. แลทช ิ งรีเลย์ (Latching Relay):
หน้าสัมผัส (Contact) ของรีเลย์ชนิดนี2จะทํางาน (Turn on) ทันทีทีขดลวดเหนียวนําขา Set ถูกจ่ายกระแสไฟให้ และจะทํางาน (Turn on) ค้างอยู่อย่างนั2นแม้จะหยุดจ่ายกระแสไฟให้แก่ขดลวดเหนียวนํา หน้าสัมผัสจะหยุดทํางาน (Turn off) อีกครั2งเมือจ่ายกระแสไฟให้แก่ขา Reset ของรีเลย์ ตัวอย่างรุ่น เช่น MYK และ G2AK
ข้อควรระวัง
1. หลีกเลียงการใช้รีเลย์ชนิดนี2ในสภาวะแวดล้อมทีมีสนามแม่เหล็ก ฝุ่น หรือในระบบจ่ายไฟทีมีการกระชากของกระแสไฟมากๆ
2. หลีกเลียงการป้อนกระแสไฟให้แก่ขา Set และขา Reset พร้อมกัน
3. เมือมีการติดตั2งรีเลย์ชนิดนี2เรียงติดกันเป็นจํานวนมาก ควรเว้นช่องว่างระหว่างรีเลย์แต่ละตัวอย่างน้อยประมาณ 15-20 มม.
4. แรทเชทรีเลย์ (Ratchet Relay):
ลักษณะการทํางานของรีเลย์ชนิดนี2ใกล้เคียงกับแลทชิงรี เลย์แต่จะรวมขา Set และขา Reset มาไว้ในขาเดียว หากเราป้อนไฟให้แก่ขดลวดเหนียวนํา (Coil) ในครั2งแรก จะทําให้ หน้าสัมผัส (Contact) ของรีเลย์ทํางาน (Turn on) ทันทีและจะทํางานค้างอยู่อย่างนั2นแม้เราจะหยุดจ่ายไฟให้แก่ Coil หลังจากนั2นหากเราป้อนไฟให้แก่ Coil อีกครั2งหนึงจะทําให้หน้าสัมผัส (Contact) หยุดทํางาน (Turn off) และจะไม่ทํางานอยู่อย่างนั2นแม้เราจะหยุดจ่ายไฟให้แก่ Coil แล้วก็ตาม จากนั2นหากเราป้อนไฟให้แก่ Coil อีก หน้าสัมผัสจะ Turn on อีกครั2ง หน้าสัมผัสจะสลับ Turn on และ Turn off ทุกครั2งทีมีการป้อนไฟให้แก่ Coil ในแต่ละครั2ง ตัวอย่างเช่น รุ่น G4Q
5. สเตปป ิ6 งรีเลย์ (Stepping Relay):
หน้าสัมผัส (Contact) ของรีเลย์ชนิดนี2จะมีมากกว่าสองหน้าสัมผัส (NO, NC) โดยทีหน้าสัมผัสเหล่านี2จะสลับกันทํางาน (Turn on) เรียงตามลําดับกันไป ซึงเราสามารถควบคุมการทํางานของลําดับการทํางานของหน้าสัมผัสโดยการป้อนพัลส์ให้กับขดลวดเหนียวนํา (Coil) ตัวอย่างเช่น รุ่น G9B-06 และ G9B-12
หน้าที่เข้าชม | 607,167 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 363,013 ครั้ง |
เปิดร้าน | 8 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |